สำหรับคนที่มีการทำกิจการหลายกิจการหรือไม่สามารถจะเข้ามาควบคุมดูแลกิจการได้ด้วยตัวเองนั้น ก็จำเป็นจะต้องมีผู้ช่วยในการดูแลร้านนั่นคือลูกน้องและพนักงานที่จะเข้ามาช่วยทำหน้าที่ในส่วนต่างๆตามที่เราได้มอบหมายเอาไว้และสำหรับร้านค้าหรือร้านอาหารก็จะมีในส่วนของแคชเชียร์ที่จะต้องทำหน้าที่คิดเงินลูกค้าและทอนเงินลูกค้าตามค่าใช้จ่ายและค่าการบริการนั้น แน่นอนว่า เมื่อลูกน้องต้องจับเงิน เจ้าของกิจการอย่างเราก็คงไม่สามารถที่จะไว้ใจได้อย่าง 100% เพราะเรื่องเงินนั้นแม้กระทั่งคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมก็ยังมีปัญหาเรื่องเงินกันได้นับประสาอะไรกับลูกน้องที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่เราจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเงิน
เมื่อลูกน้องต้องจับเงิน ความปลอดภัยและรอบคอบต้องมาอันดับแรก
ในกรณีที่ลูกน้องจำเป็นจะต้องรับเงินและทอนเงินแทนเรา ดังนั้นเราจึงจำเป็นจะต้องเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องของความปลอดภัยและความรอบคอบค่อนข้างมาก ยกตัวอย่างเช่น การติดกล้องวงจรปิดในบริเวณที่มีการเก็บเงินเพื่อตรวจสอบว่ามีการทอนเงินถูกต้องหรือไม่ หรือว่ามีการแอบเก็บเงินเข้าไปเป็นของตัวเองหรือเปล่า นอกจากนี้ในเรื่องของเครื่องคิดเงินก็ควรใช้ในแบบที่เป็นมาตรฐานเนื่องจากเราไม่ได้อยู่ร้านแล้วคอยควบคุมดูแลในส่วนนี้ได้ตลอด ดังนั้นเครื่องที่ใช้สำหรับคิดเงินและเก็บเงินจึงควรเป็นเครื่องที่มีมาตรฐานและปลอดภัยสูง
ตรวจสอบบัญชีด้วยตัวเอง
นอกจากการใช้เครื่องเก็บเงินและเครื่องคิดเงินที่มีความปลอดภัยและมีมาตรฐานที่ดีแล้ว ตัวเราเองที่เป็นเจ้าของกิจการนั้นยังควรต้องตรวจสอบบัญชีด้วยตัวของคุณเอง เนื่องจากเรื่องการเงินค่อนข้างละเอียดอ่อนดังนั้นจึงไม่ควรไว้ใจใครทำแทนคุณ ควรจะตรวจสอบบัญชีแบบวันต่อวันเพื่อที่หากเกิดความผิดพลาดใดๆก็ตามจะได้สามารถเคลียร์ปัญหาให้จบภายในวันนั้นได้ ในบางครั้งการปล่อยปัญหาให้ผ่านเลยวันไปอาจจะกลายเป็นปัญหาสะสมที่แก้ไขยากและไม่สามารถหาต้นตอที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านั้นได้ ยกตัวอย่างเช่น หากมีเงินหายภายในร้านแล้วคุณไม่เคลียร์ภายในวันนั้น คุณอาจจะไม่ทราบว่าเงินส่วนนั้นหายไปไหนแล้วใครเป็นคนเอาไป ดังนั้นคุณจึงต้องค่อนข้างเข้มงวดกับเรื่องนี้มากสักหน่อย